ประวัติ รถแท็กซี่

       กำเนิดแท็กซี่ของโลก แท็กซี่  ย่อมาจาก  แท็กซี่  แค็บ (Taxicab) ผู้ใช้คำนี้คนแรกคือ  นายแฮร์รี่  เอ็น อัลเลน นักธุรกิจาวนิวยอร์ก  ที่นำรถแท็กซี่มาจาก ฝรั่งเศส  โดยย่อมาจากคำว่า แท็กซี่มิเตอร์ แค็บ  (Taximeter cab)  Cab ย่อมาจาก คำว่า  Cabriolet  ซึ่งหมายถึง ภาษีหรือ การคิดเงิน คำว่า  Meter มาจากรากศัพท์ ภาษากรีกว่า Metron  แปลว่า วัดระยะทาง     

       ก่อนกำเนินแท็กซี่ มีรถม้ารับ-ส่ง คนโดยสาร ทั้งในปารีสและลอนดอน  ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา  โดยมีราชสำนักของทั้งสองนคร เป็นผู้ออกระเบียบควบคุมจำนวนรถ ศตวรรษ ที่ 19  มีการปรับปรุงให้รถม้ามีขนาดใหญ่ขึ้น และปรับปรุงด้าน ความเร็ว และความปลอดภัย แก่ผู้โดยสาร มากขึ้น แต่ยังใช้ม้าลากรถอยู่ โดยเรียกว่า รถแฮนซั่ม แค็บ (Handsom cabs) ทศวรรษที่  1890  ยานพาหนะที่ใช้พลังงาน ไฟฟ้าเริ่มแพร่หลาย ทั้งในปารีส ลอนดอน นิวยอร์ก โดยเฉพาะที่ลอนดอน  จะเรียกรถ รับจ้าง ดังกล่าวว่า  ฮัมมิ่งเบิร์ด จากเสียง ของ รถ แต่ผู้ริเริ่มแท็กซี่จริง ๆ เป็นชาวเยอรมัน ชื่อ  วิลเฮล์ม บรุห์น (Wilhelm  Bruhn) ซึ่งเป็นเจ้าตำรับการคิด ค่าโดยสารแบบแท็กซี่มิเตอร์ด้วย      

       ส่วนผู้ที่ผลิตแท็กซี่มิเตอร์สมัยใหม่คือ  ก็อตไลบ์  เดมเลอร์  ในปี  1897  เรียกชื่อว่า  เดมเลอร์วิกตอเรีย  จากนั้นเริ่มมีบริษัทผลิต แท็กซี่อย่างจริงจังที่เมืองสต๊ดการ์ด  เจ้าของ คือ นายฟรีดิช ไกรเนอร์  ปี 1988  เริ่มมีรถแท็กซี่ ที่ใช้น้ำมัน เป็นเชื้อเพลิงในกรุงปารีส  สี่ปีต่อมาที่กรุงลอนดอน  และอีกสี่ปีที่นครนิวยอร์ก สำหรับที่นิวยอร์ก เป็นการนำเข้าจากฝรั่ง เศสโดยนักธุรกิจ ชื่อนายแฮรี่ เอ็น อัลเลน ซึ่งเป็นผู้ที่ ริเริ่มเรียกคำว่า  “แท็กซี่” เป็นคนแรก ทั้งยังเป็นคนที่พ่นสีรถแท็กซี่เป็นสีเหลืองคนแรก หลังจาก ที่ได้เรียนรู้ว่า สีเหลืองเป็นสีที่ มอง เห็นได้ชัดเจนที่สุดในระยะไกล 

         ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสีรถ แท็กซี่ที่แพร่หลายใน อเมริกา ต้นศตวรรษที่  20  แท็กซี่แพร่หลายอย่าง รวดเร็วไปทั่วโลก กระทั่งมีการพัฒนาติด วิทย ุสื่อสาร ภายในรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็วในการบริการผู้โดยสาร ดังเช่นในปัจจุบัน

รถแท็กซี่ในประเทศไทย



             พระยาเทพหัสดิน ณ อยุธยา (ผาด) เป็นผู้คิดริเริ่มแท็กซี่ ครั้งแรก ในเมืองไทย  เมื่อราว พ.ศ. 2467-2468  ด้วยการนำ เอารถยี่ห้อออสติน ขนาดเล็กให้ออกวิ่งรับจ้าง โดยคิดป้าย รับ จ้างไว้ข้างหน้าและข้างหลัง ของตัวรถใน สมัยก่อนนั้นชาวพระ นคร เรียกรถแท็กซี่ว่า “รถไมล์”

คนขับรถแท็กซี่คนแรกเป็นใคร ? 
            ส่วนใหญ่คนขับรถแท็กซี่ในยุคเริ่มแรกนั้นไม่ทราบชื่อชัดเจน แต่เท่าที่ทำการสืบค้นมาพบว่ามีอาชีพเป็น ทหารอาสาที่อยู่ใน ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ค่าโดยสารคิดเป็นไมล์ โดยตก ไมล์ละ 15 สตางค์ ซึ่งนับว่าแพงมากเมื่อเทียบราคากับ ค่าโดย สารในปัจจุบัน  รถแท็กซี่ในสมัยบุกเบิกใหม่ ๆ นั้นเป็นรถยี่ห้อ ออสตินที่มีอยู่เพียง 14 คัน ในปี พ.ศ. 2469  แต่ถึงมีจำนวนน้อยอย่างไรก็ประสบ ปัญหาการขาดทุนจนต้องเลิกล้มกิจการไปในที่สุด